เพลา

16790 จำนวนผู้เข้าชม  | 

เพลา

Shaft
Slide shaft chromium plated shaft
            เพลา คือ อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับติดตั้งอุปกรณ์ในการทำงาน หรือใช้ส่งกำลังจากจุดหนึ่งไปอีกจุดหนึ่ง EX.พัดลมระบายอากาศ จะประกอบด้วยใบพัดที่ติดอยู่กับเพลา และที่ปลายเพลาทั้งสองข้างจะถูกรองรับไว้ด้วย Bearing การหมุนต้นกำเนิดกำลังอาจจะเป็นมอเตอร์ มาทำให้พัดลมหมุน

            โรงงานผลิตเพลาคุณภาพสูง คัดวัตถุดิบเพื่อนำมาผลิต ทุกขั้นตอนผ่านการตรวจสอบอย่างเข้มงวด เหล็กเพลาทุกเส้นจากโรงงานคุณภาพดี มีให้เลือกตั้งแต่เล็กจนใหญ่ และยังสามารถผลิต งานตามแบบจากเหล็กเส้นได้อีกด้วย

            เหล็กเพลากลม ( Steel Round Bars ) มีชื่อที่นิยมเรียกใช้กันมากมาย เช่น เหล็กเพลาดำ เหล็กเพลาขาว เหล็กเพลาหัวแดง เหล็กเพลาแข็ง เหล็กเพลากลมแบ่งออกเป็น 2 ชนิด คือ
1.เหล็กเพลาดำหรือเพลาหัวแดง s45c หรือเพลาหัวฟ้า scm440 ซึ่งกรรมวิธีผลิต คือการรีดร้อนคล้ายเหล็กเส้น แต่จะเน้นเรื่องความกลม ค่าพิกัด และความสวยงาม
2.เหล็กเพลาขาว ซึ่งกรรมวิธีผลิต คือการนำเหล็กเพลาดำไปรีดเย็นดึงลดขนาดทำให้ เปลี่ยนคุณสมบัติจากสีเทาเป็นสีเงิน ผิวจะมันและเงา จึงเรียกว่า เพลาขาว พื้นผิวเรียบตรง มีสมบัติที่ดีกว่าเหล็กเพลาดำปกติ นิยมนำไปขึ้นรูปกลึงทำชิ้นงาน น็อตสกรู ใช้เป็นชิ้นส่วนเครื่องจักร เพลารถ เพลาเครื่องจักร สำหรับทำเฟอร์นิเจอร์ พวกงานหน้าต่าง ระเบียงกันตา เกรดที่ใช้กันทั่วไปตามท้องตลาดคือ ss400 s20c s45c

เพลาหัวแดง s45c ( cabon steel )
            เหล็กคาร์บอนปานกลาง ชุบแข็งได้ง่าย ทนทาน การเสียดสีได้ดี มีความแข็งแรงสูง เหมาะสำหรับทำชิ้นส่วนอุตสาหกรรมพื้นฐาน หรือโครงสร้างของแม่พิมพ์ s=steel c=cabon s45c หมายถึงเหล็กที่มีส่วนประกอบของธาตุคาร์บอน 0.45%

            เหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน มีการใช้งานมากมายในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทยด้วย เพราะเอามาใช้ในการก่อสร้างอาคารบ้านเรือน  ถนน สะพาน โครงสร้างต่างๆ เหล็กแต่ละชนิด ก็มีรูปทรงได้หลายแบบ แต่มาตรฐานหลักๆคือ มาตรฐาน ASTM ของสหรัฐอเมริกา แต่โดยมากแล้วเหล็กก็จะมีการนำเข้ามาจากญี่ปุ่นด้วย ซึ่งใช้มาตรฐาน JIS เพราะฉะนั้นแต่ละประเทศอาจจะใช้มาตรฐานที่มาจากทางสหรัฐอเมริกา/ทางญี่ปุ่นก็ทำได้

            เหล็กรีดร้อนที่ผลิตมีหลายรูปทรง ถูกคำนวณขึ้นให้เหมาะสมกับการใช้งาน การรับแรงอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งใช้ร่วมกับคอนกรีตใช้ในงานต่างๆ เช่น โรงงาน อาหาร เสาส่งสัญญาณ สนามบิน โครงสร้างบ้านเรือน เช่น H-Beam ใช้เป็นโครงสร้าง โครงหลังคา I-Beam ปีกเหล็กถูกออกแบบใสหน้าเพื่อรับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ใช้กับแรงเครน และยังมีเหล็กฉาก ที่ใช้ทำเสาวิทยุ โทรทัศน์ และเหล็กรางน้ำ เน้นทำคานขอบต่างๆของบันได

            เหล็กโครงสร้างเหล่านี้มีข้อดีมากมาย ช่วยให้การก่อสร้างง่ายขึ้น รับแรงสั่นสะเทือนได้ดี ต่อเติมดัดแปลงได้ง่าย ถูกออกแบบมามีความแข็งแรง แต่สามารถดัดโครงสร้างให้โครงตามงานได้ เมื่อก่อนต้องสั่งผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อนจากต่างประเทศ และนำเข้ามา แต่ปัจจุบัน เมื่อไม่นานมานี้ ไทยมีโรงงานที่สามารถผลิตได้ จึงทดแทนการนำเข้าโดยมีมาตรฐาน มอก.

            ขั้นตอนหลักๆการผลิตเหล็กโครงสร้างรูปพรรณรีดร้อน เริ่มจากนำเศษเหล็กมาหลอมในเตาหลอม 1600องศา จนกลายเป็นนำเหล็ก เติมส่วนผสมปรุงเหล็กตามเกรดที่ต้องการ แล้วจึงมาหล่อเป็นแท่ง แล้วจึงนำไปรีด ตามแท่นรีดที่มีหน้าต่างๆทั้งความกว้าง ความหนา ตามที่กำหนด การรีดจะเป็นเส้นยาวต่อเนื่องทำให้ไม่เกิดรอยต่อ คุณสมบัติของเหล็กตลอดเส้นจึงมีความสม่ำเสมอ

            เหล็กหัวแดง จัดอยู่ในเหล็กเกรด s45c ซึ่งมีคาร์บอนอยู่ 0.45% บางที่มีการเติมอัลลอยอื่นๆเข้าไปเพื่อให้อบหรือชุบได้ง่ายขึ้น และมีคุณสมบัติทางกลดีขึ้น ซึ่งถ้าชุบแข็ง ความแข็งจะอยู่ราวๆ 60HRC เหล็กชนิดนี้นิยมนำมาเป็นฐานบ้าน ทำเฟือง เพลาลูกปืนสไลด์ ประคองเพลา ราคาก็ไม่ได้สูงมาก มีความแข็งแรง หาซื้อได้ทั่วไป แต่ไม่ทนกับการกัดกร่อน เกิดสนิมยาก บางครั้งจึงนำไปชุบ Hard Chrome เพื่อป้องกันการกัดกร่อน

            เหล็กสีฟ้า เป็นเหล็กเกรด SCM440 มีคาร์บอนน้อยมากเพียง 0.40% เท่านั้น เป็นเหล็กกล้าผสม เหมาะสำหรับงานหนัก และทนแรงกระแทกได้ดีมาก ลักษณะการใช้งาน ไม่ต่างจากเหล็กหัวแดงเท่าไหร่ แต่จะต่างกันที่โครงสร้างมากกว่า เพราะมีการผสมของธาตุอื่นๆ เพื่อให้คุณสมบัติดีขึ้น ชุบแข็งได้เช่นเดียวกับเหล็กหัวแดง ซึ่งการกัดกร่อน และอุณหภูมิได้มากกว่าเหล็กหัวแดง เช่น ทังสเตน วาเนเดียม โมลิบดินัม

การเลือกเหล็กที่มีคุณภาพ ทั้งเหล็กหัวแดง/เหล็กหัวฟ้า
1.ลักษณะของเหล็กหัวแดง เหล็กหัวฟ้า จะเป็นท่อนยาวถูกผลิตมาจากโรงงาน ความเรียบตลอดท่อน ไม่มีรอยต่อ ไม่มีรอยแตก ความตรง ไม่คดงอ คือสิ่งสำคัญต้องตรวจก่อนนำไปใช้งาน
2.น้ำหนักของเหล็กต้องได้มาตรฐาน เช่น ถ้านำเหล็กความยาว 1 เมตร ไปชั่งจะต้องมีน้ำหนักมากกว่าของน้ำหนักต่ำที่สุดที่ยอมรับกันใน มอก. เมื่อใดก็ตามที่น้ำหนักน้อยกว่าเหล็กนั้นไม่เหมาะนำมาใช้งานไม่ว่าจะเป็น ก่อสร้าง ทำฐานต่างๆ อาจจะเกิดอันตรายเพราะความแข็งแรง + ประสิทธิภาพของเหล็กลดลง
3.เหล็กที่ต้องพร้อมใช้ ไม่มีสนิมเข้าไปในเนื้อเหล็ก มีการเก็บอย่างดี ไม่มีการทำสิ เพราะเหล็กที่ดีจะต้องเป็นสีที่มาจากธรรมชาติของเหล็กเท่านั้น เพราะถ้ามีการดัดแปลงทำสี อาจจะไม่ได้มาตรฐานก็เป็นได้
4.เหล็กทุกชนิดควรจะมีที่มาที่ไป ทั้งเกรด+ส่วนผสม ที่ผู้ซื้อสามารถตรวจสอบได้ หรือมีมาตรฐานต่างๆรับรอง
5.เหล็กที่จะนำไปใช้งานควรจะมีขนาดค่าพิกัดของเส้นผ่านศูนย์กลางที่อยู่ในช่วงที่กำหนดของเกรดเหล็กชนิดนั้นๆ เพื่อการเอาไปใช้งานที่มีคุณภาพ ให้เกิดความเที่ยงตรงมากที่สุด เมื่อนำไปใช้งาน

            การชุบ ฮาร์ดโครม คือการเคลือบผิวนอกของเพลาด้วยโครเมียม ความหนาอยู่ประมาณ 20 micron เพื่อป้องกันสนิม+ป้องกันเพลาสึกหรอ ความแข็งแรงของผิวฮาร์ดโครม 50HRC

การชุบฮาร์ดโครมสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
1.การชุบบาง เป็นการชุบเพื่อยืดอายุการใช้งานของชิ้นส่วนเครื่องจักรกล ที่มักใช้ในงานที่มีอัตราความเสี่ยงต่อการสึกกร่อนสูง หรืองานที่อยู่ในสภาพที่มีการกัดกร่อนทางเคมี
2.การชุบหนา เป็นการชุบเพื่อซ่อมแซมชิ้นส่วนอะไหล่ที่ชำรุดเสียหาย ให้กลับมาใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถชุบหนาถึง 10มม.


คุณสมบัติเด่นเมื่อมีการชุบฮาร์ดโครม
1.เรียบลื่น เป็นมันเงา ไม่เป็นสนิม และสวยงาม
2.เหมาะสำหรับการชุบผิว แม่พิมพ์พลาสติก
3.เพิ่มความแข็งแรงของชิ้นงาน S8-62 HRC

คุณสมบัติของชิ้นงานหลังการชุบฮาร์ดโครม
1.ทนความร้อนสูง ( Hast Resistance )
2.ความแข็งแรงสูง ( High Hardness )
3.ต้านทานการสึกกร่อนได้ดี ( Good Wear Resistance )
4.ต้านการกัดกร่อนทางเคมี ( Corrasion  Resistance )
5.สัมประสิทธิ์แรงเสียดทานต่ำ ( Low Coefficient of Friction )

การประยุกต์ ชุบ HC
            เมื่อชิ้นส่วนเครื่องจักรเกิดความเสียหายจากการใช้งานเริ่มมีการสึกกร่อน/เกิดรอยแตก เป็นรอย เป็นเส้น ส่วนใหญ่แล้วช่างก็จะหาซื้อใหม่มาทดแทน ที่สำคัญคือบางครั้งการหยุดเครื่องเพื่อรออะไหล่ อาจจะใช้เวลานานเสียผลผลิตจำนวนมาก  กำไรต้องหายไป การชุบฮาร์ดโครม เป็นวิธีที่ง่ายที่สุดในการซ่อมผิว อีกทั้งยังประหยัดทั้งเงินและเวลา เพาะเมื่อชุสมบูรณ์แล้ว ประสิทธิภาพในการทำงานของชิ้นส่วนที่ผ่านการชุบฮาร์ดโครมแล้วดีเยี่ยม ไม่แตกต่างจากของใหม่อีกด้วย การชุบฮาร์ดโครม เป็นวิธีเคลือบเชิงไฟฟ้า วัสดุที่นำมาเคลือบส่วนใหญ่จะเป็นเหล็กกล้า โดยเฉพาะพวกเหล็กกล้าชุบแข็ง แกนลูกสูบไฮดรอลิค  สกรูลำเลียง สกรูบดอัด เพลามอเตอร์ แกนเพลา ลูกกลิ้ง

SUJ2

Hardness           58-62HRC

Tolerance          g6

ชุบแข็งผิว            1-3mm.

เจียรผิว ฮาร์ดโครม ป้องกันสนิม ใช้กับพวก Linear Bearing ลูกปืนสไลด์ สไลด์แบริ่ง ประคองเพลา ไม่ทำให้เพลาสึก

            SUJ จัดเป็นกลุ่มเหล็กกล้าโลหะผสมที่มีปริมาณ C=1% และโครเมียม=1.5% ชุบแข็งได้ มีความแข็งแรงสูง ทนต่อการสึกหรอได้ดี เหมาะกับงานลูกปืนสไลด์ บูชไกด์ และงานที่ต้องทนทานต่อการสึกกร่อน

SUJ2     เพลาเจียรผิว เพลาเจียรนัย

Linear Shaft Material       SUJ2 เจียรผิว ชุบแข็ง ฮาร์ดโครม

Stainless Linear Shaft      เพลาสแตนเลส      SUS304  SUS404

แกนRod S45C เจียรผิว ฮาร์ดโครม แกนท่อไฮดรอลิค เพลาไฮดรอลิค

Linear Shaft Material       SUJ2 (ชุบแข็ง)

Hardness           HRC62±2

Tolerance          g6

ชุบแข็ง               1.5-2.5mm

สั่งผลิตตามแบบ ตามขนาด spec ที่ลูกค้าต้องการ ราคาพิเศษจากโรงงานโดยตรงขนาดของเม็ดลูกปืนแบริ่ง วิ่งบนแกนเพลา จะไม่ทำให้เพลาสึก+ยืดอายุการใช้งานของ Bearing ได้นานขึ้น

            SUJ จัดเป็นกลุ่มเหล็กกล้า โลหะผสมต่ำมีปริมาณคาร์บอน 1% และโครเมียม 1.5% ทำให้สามารถชุบแข็งได้ดี หลังชุบแข็งแล้ว ทนต่อการสึกกร่อนได้ดีมาก เหมาะสำหรับใช้งาน Bearing ,Linear Shaft และแหวนสปริง

คุณสมบัติเหล็กSUJ2
            จัดเป็นกลุ่มโลหะผสมต่ำ ที่มีปริมาณคาร์บอนอยู่ 1% และโครเมียม1.5% ทำให้สามารถชุบแข็งได้ลึก และความแข็งสูง ทำให้ทนต่อการเสียดสีสึกหรอได้ดี ความแข็ง 58-62HRC และยังสามารถทำการชุบ อินดักชั่น เพื่อให้ได้ผิวที่ทนกับการสึกหรอ ทนต่อการล้าได้ดีเยี่ยม เหมาะสำหรับงานแบริ่ง ลูกกลิ้ง บูชไกด์โพสต์ และงานที่ต้องการความทนทานต่อการสึกหรอ

การชุบแข็งเหล็ก SUJ2
            สามารถชุบแข็งผิวได้โดยวิธีการอินดักชั่น อาศัยการเหนี่ยวนำไฟฟ้า เกิดความร้อนที่ผิว จากนั้นทำให้เย็นตัวอย่างรวดเร็ว ซึ่งช่วยให้ผิวของเหล็กมีความแข็งแรงสูง ทนต่อการสึกกร่อนได้ดี สามารถชุบให้มีระดับความลึกของผิวแข็งประมาณ 0.13-0.64มม. สำหรับงานที่รับโหลดมาก แต่สำหรับงานที่รับภาระหนัก และรุนแรงสามารถชุบให้มีระดับความลึกผิวในช่วง 0.5-12.7มม. หรือมากกว่านั้นได้

การเชื่อม SUJ2
            มีโอกาสเสี่ยงต่อการแตกร้าวได้มาก แนะนำรวดเชื่อที่หุ้มฟลักซ์เบสิค  ควรใช้ลวดเชื่อมที่มีส่วนผสมของโครเมียม และนิกเกิลเป็นปริมาณมากๆ เช่น AWSE 312-16 และถ้าจะให้ดีควรทำการเผาอุ่นที่อุณหภูมิ 200องศา แล้วทำการเชื่อม

เพลาเหล็ก,เพลากลม,เหล็กเพลากลม,เพลาเหล็กแข็ง,เหล็กเพลาสแตนเลส,เหล็กเพลา,เพลาเหล็กS45C,เพลาเหล็กSUJ2,เพลาหัวแดง,เหล็กหัวแดง,เพลาเหล็กเกรดพิเศษ,เพลาเหล็กชุบแข็ง,เพลาเจียร,เพลาเจียรนัย,เหล็กชุบแข็ง,เพลาชุบโครเมียม,เหล็กเจียร,แกนเพลา,แกนไฮดรอลิค,เพลาชุบแข็ง,เหล็กคาร์บอน,S45C,SUJ2,SCM,เหล็กเหนียว,เพลาเหล็กเหนียว,เพลาไฮดรอลิค

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้